ทพญ.ปิยะดา ประเสริฐสม ผอ.สำนักทันตสาธารณสุข กรมอนามัย กล่าวว่า อาการเสียวฟันเป็นปัญหาทันตกรรมที่เกิดจากภาวะเหงือกร่นและเคลือบฟันสึกกร่อน มักพบในคนอายุระหว่าง 20-50 ปี ซึ่งพฤติกรรมที่เป็นปัจจัยเสริมทำให้เกิดอาการเสียวฟัน เช่น ดื่มน้ำอัดลม รับประทานอาหารรสเปรี้ยว หรืออาหารแข็งและเหนียว แปรงฟันไม่ถูกวิธี แปรงฟันแรงเกินไป ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เคลือบฟันสึกและบางลงจนถึงชั้นเนื้อฟันที่อยู่ใกล้กับโพรงประสาทฟันซึ่งมีเส้นประสาทเป็นจำนวนมาก ของเหลวในท่อเนื้อฟันจะไปกระตุ้นปลายประสาทฟันทำให้เกิดอาการเสียวฟัน นอกจากนี้อาการเสียวฟันยังอาจเกิดจากฟันแตกหรือฟันร้าว หรือมีการสะสมของคราบจุลินทรีย์และแบคทีเรียทำให้เป็นโรคเหงือกอักเสบหากปล่อยไว้โดยไม่รักษาอาจเกิดการลุกลามทำให้สูญเสียฟันได้
ทพญ.ปิยะดากล่าวต่อว่า สำหรับการป้องกันและลดอาการเสียวฟันมี 5 วิธี ได้แก่ 1.ใช้ยาสีฟันพิเศษ ที่มีสารโปแตสเซียมไนเตรตหรือสตรอนเทียมอะซิเตตผสมอยู่ 2.ใช้แปรงสีฟันขนอ่อนนุ่มและแปรงฟันให้ถูกวิธี 3.อย่าเคี้ยวของแข็งเพราะอาจทำให้ฟันแตกหรือหักเป็นรอยร้าวได้ 4.งดดื่มน้ำผลไม้รสเปรี้ยวและน้ำอัดลม หากบริโภคนานเกินไป อาจทำให้เกิดการละลายตัวของเคลือบฟัน และ 5.แปรงฟันอย่างถูกวิธีอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งและใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดฟันหลังแปรงฟันทุกครั้ง เพื่อลดคราบจุลินทรีย์บริเวณซอกฟัน โดยหากทำทั้ง 5 วิธีแล้วอาการยังไม่ดีขึ้นให้รีบปรึกษาทันตแพทย์.